วันอังคารที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2551

เปิดใจ D2B หลังคว้ารางวัล MTV ASIA AWARDS 2003





หลังจากกวาดรางวัลในประเทศไปแล้วหลายรางวัล ล่าสุด 3 หนุ่มฮอตข้ามปีอย่าง “บิ๊ก - แดน – บีม D2B” ก็ก้าวข้ามขึ้นไปในระดับเอเชีย ประกาศความเป็นศิลปินยอดนิยมของประเทศไทย ด้วยการคว้ารางวัลสำคัญทางดนตรี ที่ใหญ่ที่สุดในเอเซียจากเวที "MTV ASIA AWARDS 2003" ในสาขารางวัล "Favourite Music Artist From Thailand" ที่จัดขึ้นโดย MTV ประเทศสิงคโปร์ มาครองได้เป็นผลสำเร็จ วันนี้ เราจะมาเปิดใจ 3 หนุ่ม หลังจากคว้ารางวัล พร้อมทั้งการทำงานในอัลบั้มใหม่มาฝากแฟนเพลงของ ดีทูบีโดยเฉพาะ ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีอย่างเป็นทางการกันก่อน กับรางวัล MTV ASIA AWARDS 2003 D2B : ขอบคุณครับ คาดหวังไว้บ้างมั้ยกับรางวัลตรงนี้ บีม : ไม่ได้หวังครับ ไม่ได้คาดคิดไว้เลย เพราะทุกคนที่ได้รับเสนอชื่อ ก็เก่งๆ กันทั้งนั้น ไม่ได้คิดครับเราว่าจะได้ แดน : เป็นอารมณ์ว่า ได้ก็ดีมากกว่าครับ ไม่ได้ก็เป็นไร ตอนนั้นกำลังคิดว่า จะพูดแสดงความยินดีกับพี่ๆ เค้ายังไงมากกว่า
ตอนที่ได้ยินประกาศผู้ได้รับรางวัลเป็นชื่อ D2B ตอนนั้นรู้สึกยังไงบ้าง บีม : มันอึ้งครับ ไม่คิดว่าเราจะได้ ตอนไปร่วมงานก็คิดว่า แค่เรามีชื่อติด ก็เป็นความภูมิใจมากๆ แล้วครับ มันพูดไม่ออก งงด้วย ตอนขึ้นไปบนเวที พูดอะไรไปยังไม่รู้เลย ตื่นเต้นมากๆ ครับ แดน : ศิลปินบางคนอาจจะดูไม่ตื่นเต้นเท่าไหร่ เพราะบางคนเค้าอาจจะมั่นใจว่าเค้าได้แน่นอนแล้ว แต่อย่างของเรามันไม่ใช่ฮะ ทุกคนเก่งกันหมด แล้วก็กำลังแข่งกัน มีลุ้นกันทุกคนเลย ก็ไม่คิดว่าจะเป็นเรา พอเป็น D2B ก็ตกใจนิดนึง แล้วบิ๊กล่ะ แว้บแรกตอนนั้น คิดถึงอะไร บิ๊ก : คิดถึงตลอดทั้งปีที่ทำงานมา ว่าเหนื่อยนะกว่าจะผ่านแต่ละอย่างมา พอได้รางวัลตรงนี้ ก็ทำให้เราหายเหนื่อย และมีความภาคภูมิใจ ตอนที่ได้รางวัลมาแล้ว โทรบอกใครคนแรก บีม : ได้คุยกับพี่แหม่มครับ แล้วพี่แหม่มก็บอกว่า ใจเย็นๆ บีมก็บอกว่าบีมเอ๋อฮะ Speech ที่พูดบนเวที มีการเตรียมตัวเอาไว้มั้ย บีม : จริงๆ แล้วที่บริษัทก็ให้เตรียมตัวไว้ครับ แต่พอถึงตอนนั้นจริงๆ มันตื่นเต้นมาก อะไรก็ลืมหมดเลย บีมก็พูดเองเท่าที่นึกได้ตอนนั้น อยากขอบคุณใครก็พูดออกมาเลยครับ บิ๊ก แดน ปล่อยให้พี่บีมพูดอยู่คนเดียวเลย แดน : (หัวเราะ) ใช่ครับ พอตื่นเต้น ความคิดเราก็เป็นภาษาไทยหมดเลย ทีนี้เราก็พูดเป็นภาษาไทยไม่ได้ ก็เลยพูดอะไรไม่ออกเลย ตอนที่อยู่บนเวทีอยากจะพูดอะไรออกมา แล้วไม่ได้พูดบ้างรึเปล่า บิ๊ก : "ขอบคุณครับ" คำเดียวเลยครับ มันเป็นคำๆ เดียว ที่รวมความรู้สึกทุกอย่างไว้ แล้วก็พูดเป็นภาษาไทย ก็ไม่รู้ว่าเค้าฟังรู้เรื่องกันรึเปล่า แต่เราอยากพูดคำนี้ครับ ช่วงเวลา 3 วันที่อยู่ที่นั่น ทำอะไรกันบ้าง บีม : วันแรกที่ไปถึงก็เข้าโรงแรม ตอนกลางคืนได้ออกไปเดินเล่นที่ออร์ชาร์ด โร้ด แต่ตอนกลางคืนก็ไม่ค่อยมีอะไรเพราะปิดเร็ว ออร์ชาร์ด โร้ด เป็นถนนคล้ายๆ สีลม เป็นถนนเศรษฐกิจของเค้า วันที่สองเป็นวันของการทำงานครับ ก็ไปซ้อมบนเวที แล้วก็พบปะเอ็มทีวี เพื่อเตรียมขึ้นเวที วันสาม ก็ไปเดินช้อปปิ้งที่ ออร์ชาร์ด โร้ด แล้ว ก็กลับตอนกลางคืน ประมาณ 3 ทุ่มครับ แดน : เราไปเดินเล่น ที่นั่นมีอะไรน่าสนใจก็ไปเดินเที่ยวกันครับ บิ๊ก : ผมเดินเล่นอยู่ซักพักนึงครับ เดินผิดเดินถูกกับแดนกันอยู่ 2 คน เดินออกไปตอนกลางคืนจะไปกินโจ๊กกัน ไปๆ มาๆ ไปได้มาม่าที่เซเว่น แล้วก็เลยกลับห้อง เดินผิดไปแดนก็บอก พี่บิ๊กเชื่อแดน พอเชื่อแดน ก็หลงเลย ประทับใจอะไรที่สิงคโปร์ แดน : บ้านเมืองเค้าสวยมากครับ เค้ามีการวางแผนผังงานดีมากๆ ข้างทางก็เป็นต้นไม้หมดเลย แล้วตึกมีไม่ซ้ำแบบกันเลยครับ สะพานก็แทบจะไม่ซ้ำกันเลย แต่อากาศร้อนไปกว่าบ้านเราหน่อย
มีแฟนเพลงที่สิงคโปร์มาขอลายเซ็นบ้างมั้ย บีม : มีครับ รับมาส่งเราที่สนามบินด้วย ส่วนที่งานก็มีบ้างเป็นหย่อมๆ ครับ :o) แดน : คนที่รู้จักเรา ชอบเรา ก็จะมีเทปเรา มีซีดี Private Life อย่างเค้ารู้ว่าแดนชอบสีเขียว เค้าก็ซื้อผ้าเช็ดหน้าสีเขียว มาให้ด้วยครับ บิ๊ก : เค้าเอา ซีดี Private Life มาให้เซ็น เราก็ถามเค้าว่าซื้อมาจากไหน เค้าก็บอกว่าเค้าสั่งซื้อมาจากเมืองไทย แล้วก็ส่งไปที่นั่น เราก็รู้สึกดีใจว่าเค้าขนาดนี้เลยเหรอ ได้รับประสบการณ์อะไร จากการไปร่วมงานกับ MTV ในครั้งนี้บ้าง บีม : ได้ดูการทำงานของพวกอินเตอร์เนชั่นแนล ว่าเป็นยังไง คือบางทีเราดูในทีวี อาจจะไม่รู้ว่าเค้าทำกันยังไง อย่างการจัดแสงบนเวที สวยมากๆ ครับ เวลาที่ถ่ายออกมาจะดูดี ดูสดใส เวทีแสง สี เสียงก็จัดดี และทีมงานก็ดูแลเราดีมากๆ เหมือนกับเราเป็นซุปเปอร์สตาร์ ปฏิบัตกับเราเท่าๆ กับศิลปินอื่นๆ รางวัลที่ได้รับมาจะมีผลกับการทำงานในอัลบั้มต่อไปของเราแค่ไหน บีม : มีแน่นอนครับ อย่างแรกมันเป็นกำลังใจ ให้เรารู้สึกว่า งานต่อไปมันจะต้องดีขึ้นนะ แล้วก็ไม่ได้เป็นกำลังใจอย่างเดียว ยังเป็นแรงกดดันด้วย ว่า เราจะทำให้เพื่อนๆ ผิดหวังไม่ได้ บิ๊ก : มีผลมากๆ เลยครับ เพราะมันเหมือนเราก้าวไปอีกระดับนึง การทำงานเราต้องมากขึ้นไปอีกเยอะพอสมควรเลย เกร็งบ้างมั้ยกับอาถรรพ์อัลบั้ม 2 บีม : ก็มีบ้างครับ นิดหน่อย แดน : คิดว่าถ้าเราทำงานเต็มที่แล้ว ก็ไม่มีอะไรต้องกังวล อัลบั้มใหม่ จะแตกต่างจากอัลบั้มที่ผ่านมายังไง แดน : ไม่อยากจะเปลี่ยนอะไรไปมากเท่าไหร่ เพราะคนเค้ารู้จักเราด้วยงานเพลงแบบนี้ ด้วยภาพลักษณ์แบบนี้ ก็อยากจะให้คงสิ่งเหล่านี้ไว้อยู่ แต่จะมีการมาปรับเปลี่ยนในเรื่องการร้องให้ดีขึ้น ดนตรีแน่นขึ้นมากกว่าครับ แต่แนวเพลงคงไม่เปลี่ยน บิ๊ก : งานเพลงพัฒนาขึ้นแน่ครับ อย่างเรื่องดนตรีอะไรอย่างนี้ จะมีเรื่องของเทคนิคประสานเสียงเพิ่มขึ้นนิดหน่อย ใส่ลูกเล่นต่างๆ เพราะจากประสบการณ์ที่ผ่านมา เราก็จะรู้ว่า อันนี้ควรจะใส่ตรงนี้ อันนี้ควรจะมาไว้ตรงนี้ มีเสนอไอเดียอะไรที่เราอยากจะให้มีในอัลบั้มใหม่บ้างมั้ย แดน : แดนค่อนข้างจะมั่นใจ ในพี่ๆ ทีมเพลงของพวกเราอยู่แล้วครับ ว่าพี่ๆ เค้าเก่งกันทุกคน ก็เลยจะไม่ค่อยกังวลอะไรเท่าไหร่ จบจากละครเฟรชชี่ไปเป็นยังไงบ้าง แดน : ก็มีเหงาๆ เหมือนกันครับ เพราะตอนไปถ่ายละครมีเพื่อนๆ เยอะ น้องๆ ไปเล่นละครกันแล้ว บีมสนใจอยากเล่นละครบ้างมั้ย บีม : อืมม... อันนี้ยังไมแน่ใจครับ ยังไม่มีใครติดต่อมา หนังเรื่อง “คลื่นเหงา” ไปถึงไหนแล้ว บีม : ตอนนี้อยู่ในช่วงตัดต่อ ยังไม่ทราบว่า จะต้องมีแก้ไขตรงไหนบ้าง เป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร ยังไง บีม : เป็นหนังโรแมนติกคอมเมดี้ มีการง้องอนกัน เป็นเรื่องที่เกิดมาจากการเข้าใจผิดกัน เพราะพระเอกไปหลอกนางเอกในตอนแรกครับ พระเอกเป็นดีเจ อย่างตอนที่คุยกันในวิทยุ ก็จะคุยกันดี แต่พอคุยกันตอนอยู่แถวบ้านก็จะทะเลาะกัน ต้องรอดูกันครับ
เป้าหมายที่อยากทำในตอนนี้ แดน : เป้าหมายแรกคือเรื่องเรียนครับ ก็คุยกับพี่ๆ เค้าเรียบร้อย ขอคิวไปเรียน ก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ บีม : พอไปต่างประเทศหลายๆ ที่ แล้วรู้สึกว่า ภาษาอังกฤษของตัวเองยังไม่ดี เลยอยากไปเรียนภาษา แต่เวลาไม่มีเลย แต่เดี๋ยวเปิดเทอมใหม่นี่ แดนกับบิ๊ก ก็ต้องกลับไปเรียนแล้ว งาน D2B ก็คงจะน้อยลง เป็นผลดีกับบีมมากเลยครับ ก็จะใช้เวลาช่วงนั้นไปเรียนภาษาเพิ่มเติม บิ๊ก : ช่วงที่ผ่านมา บางตัวต้องหยุดเอาไว้ เพราะไม่มีเวลาไปเรียนครับ เปิดเทอมนี้ก็ลุยได้เต็มที่ จะได้เรียนจบไวๆ ตอนนี้หายตื่นเต้นกันแล้ว อยากฝากอะไรถึง แฟนเพลงที่ร่วมใจกันโหวตลงคะแนนให้ D2B บ้าง บิ๊ก : อยากจะขอบคุณทุกคนที่เชื่อในตัวพวกเราอยู่ ขอบคุณมากๆ ครับ แดน : อยากจะฝากบอกทุกคนว่า ขอบคุณมากๆ ครับ ถ้าเพื่อนๆ ไม่ช่วยกันโหวตให้ เราก็คงไม่ได้รับรางวัลนี้ ตอนที่ได้รับรางวัล สิ่งที่รู้สึกขึ้นมาอย่างแรก คือรู้สึกว่า"โอ้โห คนเค้ารักเรามากขนาดนี้เลยเหรอ" นึกถึงแฟนเพลงอย่างเดียวเลยตอนนั้น ที่จะร้องไห้ เพราะว่า น้ำตามันจะไหล เพราะซึ้งใจ ที่เราออกเทปมาปีนึง เรามีสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิตเยอะมาก ก็ไม่ใช่เพราะใครเลย เพราะทุกคนจริงๆ ขอบคุณมากๆ ครับ ขอบคุณจริง บีม : ตอนลงมาจากเวที เราทั้ง 3 คนมาคุยกัน แล้วก็คิดกันว่า "ทำไมแฟนเพลงถึงได้รักเรามากขนาดนั้น ทำไม? ทำไม? ทำไม?" ตอนอยู่บนเวทีก็ไม่รู้จะพูดอะไร ก็พูดขอบคุณ ขอบคุณ แต่ก็ไม่รู้มันจะส่งไปถึงแฟนเพลงมั้ย บีมก็ขอขอบคุณอีกทีละกัน ขอบคุณมากๆ เลย ขอบคุณที่รักพวกเราครับ
ขอบคุณ ข้อมูลจาก RS-Promotion.Com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น